Konbanwa!
こ ん ば ん は!

สวัสดีจ้าาาาาา
ไม่พูดปรํ่าทำเพลง ทำทำนองอะไรทั้งนั้น เวลาเรามีน้อยค่ะ 555
วันนี้ต่ายจิมารีวิว “แป้งฝุ่นที่รักเรา” ค่ะ 
อุ๊ยอะไรอ่ะๆๆๆๆ อะไรคือ แป้งฝุ่นที่รักเรา ถ้าอยากรู้ อ่านต่อเลยค่ะ

ถ้าใครติดตามต่ายจะรู้ว่า ต่ายกะเจ้าหญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบแป้งแนวๆนี้มาก
เพราะอะไรน่ะหรา ?! ก็เพราะมันใช้ง่าย ใช้สะดวก และแถมไม่เยอะไปด้วย
อ่ะ! แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะเลือกเลยนะ ยิ่งสมัยนี้ มีออกมาเยอะ เยอะ เยอะ T^T
ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนอ่ะ ต่ายก็จะเลือกที่ราคาถูกไว้ก่อน เพราะเห็นว่าเป็นแค่แป้งฝุ่น
แต่พอได้ลองหลายๆยี่ห้อ หลายแบรนด์มันก็ทำให้เรารู้ว่่า “เห่ยย เก็บตังอีกนิด ได้ของดีต่อใจหวะ”
บวกกะ สุขภาพเป็นคนสำออยค่ะ คือ เป็นภูมิแพ้ อากาศเปลี่ยนนิดมาละ ดมๆอะไรนิด มาละ
เพราะงั้น เมื่อเร็วๆนี้ ต่ายเลยเพิ่งรู้จักกับแบรนด์ Lady Audrey ค่ะ (เลดี้ ออร์เดรย์) 
เค้าเป็นแป้งฝุ่นที่ “รักคนใช้” คือ ทางเจ้าของเค้าเข้าใจปัญหาและสถาณการณ์ของปัจจุบัน
ด้วยความที่ แป้งทั่วไปนั้นมี Talc คือ แร่ใยหิน อยู่ หากสูดหายใจเข้าไปนานๆ หลายๆปี
อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ ดังนั้น เค้าจึงคิดค้นและพัฒนาแป้งฝุ่นตัวนี้มา เพื่อดูแลสุขภาพให้คนไทยค่ะ >..<

>.< โถ่วววว พ่อคุณ แม่คุณ อะไรจะจิตใจดีเบอร์นั้น >.<

หลายคนอาจจิเถียงว่า แป้งๆไหนๆก็มี Talc แล้วก็ใช้มานานแล้ว ไม่เห็นตายเลย
ใช่ๆ ตายไม่ได้บอกว่าใช้แล้วตายค่ะ ต่ายหมายถึง เจ้าแร่ตัวนี้มันสะสมในร่างกายได้
แล้ว ยังไม่มีผลวิจัยใดๆ รองรับว่า มันไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพ นะคะ
เพราะงั้น ถ้าเรามีโอกาสวันนี้ ถ้าเราเลือกได้ เราก็น่าจะเลือกอะไรดีๆ ให้ตัวเรามิ ^^

เอาล่ะค่ะ ไม่พูดมากแล้ว ไปดูของจริงกันเลยดีฟ่า
1-2-3 ไปค่ะ

*อร๊างงงงงงงง >.< แค่แพกเกจจิ้งก็ได้ใจตุ๊ด กวาง บ่าง ชะนี ไปแล้วค่ะ คุณผู้ชม*

Product Info: ข้อมูลสินค้า
แบรนด์ : Lady Audrey  อ่านว่า เลดี้ ออเดรย์
ชื่อสินค้า :  Rice Loose Powder Long-Lasting Oil Control 
ฉายา : แป้งข้าว คุมมัน
ขนาด : 18 กรัม
ราคา : 490-590 บาท (ติดตามโปรโมชั่นได้ที่เฟสบุ๊คนางค่ะ)
สีและเนื้อ : มี 2 สี คือ
สี 001 Peach Parfait กล่องสีชมพู – เหมาะกะผิวขาว
และ สี 002 French Vanilla กล่องสีฟ้า – เหมาะกะผิวเหลืองคลํ้า หรือ ทุกสีผิว
พรีเซนเตอร์ : ไม่มี

Base Story: เรื่องเล่าก่อนเข้าแบรนด์
จากที่บอกค่ะ วันส์ที่เราแก่ตัวลง การเลือก การลองเครื่องสำอางก็ได้มีปัจจัยหนึ่งเพิ่มเข้ามา
นั่นคือ เรื่องของสุขภาพ คิดง่ายๆ เช่น แป้งเราทาแป้งกันทุกวันช่ะ 365 วันก็ทาอ่ะ ทาน้อยทามากก็ทา
คิดดูว่า แป้ง เข้าไปอยู่ในร่างกายเราเยอะแค่ไหน? มีที่มันขับออกได้ก็ดี แต่ไอ่ที่ขับไม่ออก สะสมละ?
อย่างแรกที่เราสังเกตได้คือ เรื่องของระบบหายใจ นะคะ ดังนั้น ถ้าใครที่พอจ่ายได้ มีเงิน (มายมัม ริช)
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ได้ลอง เครื่องสำอางในโซนที่เป็น ออร์แกนิค หรือ พวกที่ไม่มี Talc 
เพราะในระยะยาว มันน่าจะปลอดภัยกว่าเนอะ

Brand Story: แบรนด์เคลมว่า
กล่าวถึงคำสัญญาจากแบรนด์ (Brand Promise) หรือ คำเคลม (Product Claims) 
1.) เป็นแป้งที่ทำมาจากข้าว RICE จากธรรมชาติ โดยไม่มีทัลคัม (Talcum)
ที่อาจก่อให้เกิดการสะสมได้ในระยะยาวเลยแม้แต่นิดเดียว
2.) เป็นแป้งที่มีส่วนผสมมาจากสารสกัดธรรมชาติ 
จึงเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย บอบบาง มากๆ 
3.) ปราศจาก ทัลคัม/พาราเบน/นํ้าหอม
การใช้แป้งนี้ ก็เหมือนกับการได้พักหน้าจากสารเคมี นั่นเอง
4.) ช่วยควบคุมความมัน ลดนํ้ามันส่วนเกินได้ดีมาก คุมอยู่ตลอดวันตั้งแต่เช้ายันเย็น
นั่นคือ คอนเซปของเขาค่ะ All Day – Audrey เริ่ดเนอะ ^^
5.) ช่วย ‘เบลอ’ รูขุมขน และริ้วรอยได้ด้วยนะคะ

*ยอมรับเลยค่ะ ว่าดีไซด์เนอร์ทำรูปและคอนเซปออกมาเข้าใจง่ายและดีจริงๆ 10 10 10 ไปเลยจ้า*

Design and Packaging : ออกแบบและบรรจุภัณฑ์
มาถึงสิ่งที่ทำให้ดิชั้นกรี๊ด วีดร้อง เป็นเหมือนคนบ้าที่สุด คือ คุณดูสิคะ งานเขาดีต่อใจแค่ไหน? ทั้งการออกแบบ
ทั้งสี ทั้งแพกเกจ ซึงเรื่องนี้ ต่ายกะได้ไปสืบมาแล้วค่ะ ถ้าสั่งเกตให้ดี กล่องของเขาจะมีรูปกราฟฟิกเส้นใยเชื่อมโยงกัน
แล้วภายในนั้นมีมีเมล็ดข้าวอยู่ ซึ่งมันหมายถึง ว่า ผลิตภัณฑ์นี้คือ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจาก เทคโนโลยีสมัยใหม่และข้าว
จากธรรมชาติผสมผสานกันค่ะ O_O โอ้พระเจ้าแมรี่ เธอคิดไปได้ขนาดนั้น O_O

สำหรับใครที่อยากดูดีไซด์ mood & tone เพิ่มเติม ขอเชิญที่เฟสบุ๊คนางนะคะ ขอบอกว่า ดีจริง ชอบๆ
ส่วนตรงนี้ ต่ายขอรีวิว แพกเกจจิ้งต่อไปค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

*คุณคะ จะสีไหนก็สวย และ แพกเกจจิ้งกระปุกดี แข็งแรง พกพาง่าย จริงๆ แอร๊ยยยยยยย *
เอาเป็นว่าต่ายขอรีวิว เฉพาะสีชมพู นะคะ จะได้ไม่เปลืองเมม เปลืองเนื้อที่

*ฝาสีชมพูใส สกรีนเป็นรูปกราฟฟิกและชื่อแบรนด์ ด้านล่างกระปุกสีขุ่น ให้ลุคที่ดูผู้ดีมาก*

*เปิดฝามาเจอพัฟฟ์ นอนอยู่ แถมทำเสียดี มีคาดชื่อแบรนด์ที่ริบบิ้นดั๊วะ*

*ตอนแรกคิดว่า พัฟฟ์คงโง่ๆ ทึ่มๆ เพราะลงทุนกะแพกเกจไปแล้ว ขอโทษนะคะ พัฟฟ์ก็มีความดีมากค่ะ*

*ต่ายสังเกตว่า เนื้อแป้ง จะมีความกึ่งละเอียด กึ่งหยาบ นะคะ จะไม่เหมือนแป้งจากแร่ Talc ทั่วไป*

*เนื้อตอนแรกที่ลงผิวจะดูหยาบหน่อย แต่พอเกลี่ยแล้วลื่นมาก  finish ไม่ต่างอะไรกับแป้งที่มี Talc เลยค่ะ*

*เอ่อ ต่ายลืมบอกค่ะ เค้ามีฉลากภาษาไทยด้านข้างนะคะ มีครบทั้งเลขจดทะเบียน ทั้งวันผลิต สบายใจนะคะ*

*กล่องสีฟ้า French Vanilla ก็น่ารักไม่แพ้กันนะคะ*

*เนื้อตัวนี้จะมีสีเหลืองนวลมากกว่าอีกตัวค่ะ เค้าจึงบอกว่ามันเหมาะกะสาวผิวเหลือง-สองสี*

*อย่าตกใจ!! ลงครั้งแรกมันจะขาวหน่อยๆ แต่พอเกลี่ยแล้วกลืน นะคะ ไม่วอกเลยยยยย สาบาน*

*เป็นไงละ! ถึงกับอึ้งไปเลย 5555*
ก็เรียกได้ว่า ครั้งนี้คือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ครั้งใหญ่เลย
จากที่ออกแบบแบบไม่คิด ตอนนี้มาเป็นคอนเซป มาเป็นเรื่องราว รู้สึกว่าแบรนด์เติบโตและฉลาดขึ้น
ขอบคุณค่ะที่เปลี่ยนแล้วดีขึ้น ^^ รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ

Ingredients: ส่วนประกอบ
เรื่องนี้มีความสำคัญประมาณนึงเลยค่ะ เพราะ อย่างที่บอกไว้ แป้งที่รักเรา ย่อมต้องไม่ทำร้ายเรา 
ดังนั้น ถ้าดูจากสูตรจะเห็นเลยว่า เค้ามาแบบคลีนๆจริงๆ คือ ไม่ได้ใส่อะไรที่มีโอกาสทำให้เราแพ้ได้เลย

ไม่มีพาราเบน
ไม่มีทัล (Talc)
ไม่มีนํ้าหอม

แถมยังใช้ข้าวเป็นส่วนประกอบอีกด้วย เรียกว่า ธรรมชาติสุดๆไปเลยค่ะ
และที่ทำให้เรารักนางมากขึ้นก็คือ นางไม่ทำการทดลองกับสัตว์ (โลโก้รุปกระต่าย ^^)
>..< ดีจัง ดีจุง คุณไม่ทำร้ายต่าย >..< 
I love You

สรุปจากสูตร
1. นางทำจากข้าวเจ้าแน่แท้ค่ะ ไม่มีแร่ทัลคัม ไม่มีนํ้าหอม ไม่มีพาราเบน แน่นอน
ข้าวที่ใช้ในสูตรคือ Aluminium Starch Octenyl succuinate (Modified Rice Starch) (1)
ตัวนี้บอกเลยว่า ไม่ใช่ข้าวธรรมดานะ แต่เป็นข้าวที่พัฒนาแล้วให้มีโมเลกุลที่ดีขึ้น มันจึงคุมมันได้ดีกว่าไง
(มีคนถามว่า งี้ไปซื้อแป้งข้าวเจ้ามาทาหน้าก็ได้มะ? ไม่ได้!! มันไม่เหมือนกัน โมเลกุลต่าง สีต่าง แต่ที่สำคัญ
เสี่ยงต่อแบคทีเรียด้วยนะยะ ถ้าหล่อนใช้แป้งข้าวเจ้า =_=)

2. ทาแป้งแล้ว ผิวหน้าของเธอจะกระจ่างใส เป็นประกายด้วยพลังของ Mica (2)
จัดเป็นสารที่พบในแป้งและเครื่องสำอางทั่วๆไปค่ะ

3. นางช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอ่อนๆได้ด้วยนะจ๊ะ ด้วยพลังของ
Titanium Dioxide (3) และ Silicon Dioxide (4)

4. นางมีความบางเบา ไม่หนัก แล้วไม่อุดตันแบบแป้งทั่วไปจากทัลคัมแน่นอน
และ เลือกใช้สีที่เข้ากับสีผิวคนไทยค่ะ Iron Oxide Red & Yellow (5)

R-Micelle Technology

อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ แป้งข้าว Lady Audre มีความดีงามในตัว
R-Micelle คือ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโมเลกุลแป้งข้าวที่เราเห็นกันทั่วไป ให้มีโมเลกุลขนาดเล็กจิ๋ว
เพื่อให้โมเลกุลของแป้งสามารถโอบกอดผิวได้เเนบเนียนและสัมผัสนํ้ามันได้เยอะขึ้นนางจึง
ควบคุมความมันได้ดีขึ้นกว่าเดิม อีก! แถมมีเนื้อสัมผัสที่เนียนบางขึน ไม่หยาบๆ เหมือนรุ่นก่อน
ที่สำคัญ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้สีของแป้งไม่เปลี่ยนแปลงระหว่างวัน มันจึงอยู่บนผิวหน้า
ได้ยาวนาน ทั้งแต่หัววันยันเที่ยงคืน O_O อันนี้ก็เวอร์ไป ก็ เรียกว่า
อยู่ได้ยาวนาน ตลอดเวลาที่ต้องการสวยล่ะเนอะ

Results: ผลลัพธ์ที่ได้จากต่ายและเจ้าหญิง
ขอบอกเลยว่า อันนี้ใช้เอง ใช้จริงค่ะ ทั้งต่ายและเจ้าหญิง
แล้วไม่ได้ใช้แบบ ครั้งสองครั้งนะ คือเราใช้กันทุกวันเป็นเวลาเดือนกว่า O_O
เพราะของมันดีจริงอ่ะคุณ ยิ่งใช้ยิ่งชอบ แล้วรู้สึกเหมือนว่า เราปลอดภัย 5555
งั้นเรามาสรุปผลตามที่แบรนด์เคลมไว้กันดีกว่า

1. เรื่องคุมมัน (Oil Control & Reduce Excess Oil) – อันนี้ขอบอกว่า นางทำได้จริงค่ะ 
ทาตอนเช้าก่อนออกจากบ้านประมาณ 7 โมง ไปทำงาน ไปเดินตลาด ไปเดินห้าง โน้นแนะ ประมาณ 2 โมงหน้าถึงจะมันอีกครั้ง
เห่ย ถือว่าโอเคเลยนะคะ แล้วที่มันเนี้ยก็ไม่ได้กลับมามันย่องนะ คือมันแบบ เออ มันแบบสวยๆ ผ่องๆ

2. เรื่องสีผิว (Color & Complexion) – เราชอบนะสีไม่วอกและดรอป
เช่นกัน ทาตอนเช้า ตอนบ่ายก็ยังสีเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แบบว่า รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงงิ ^^

3. เรื่องการเบลอรู กลบริ้วรอย (ฺFade Pores & Fine Line) – ไม่ได้ค่ะ!!!
โอ๊ยยย อันนี้ก็เวอร์เกิน แป้งฝุ่น ค่ะ คุณผู้ชม มันจะไปกลบริ้วรอย เส้นประสบการณ์ชีวิตได้ไง  
รูขุมขนมันก็ได้แค่ประมาณนึงอ่ะค่ะ ถ้าเป็นแป้งรองพื้นก็ว่าไปอย่าง

4. เรื่องการปกปิด (Coverage) – ทำได้แค่ ปกปิดเบาๆ ค่ะ
สำหรับใครที่หนังหน้าดี มีบุญญาธิการมาแต่ปางก่อน รอด! ทานิดๆหน่อยๆก็สวยแล้วเว้
แต่ถ้าหนังหน้าพังขั้นสุด จะมาหวังอะไรกับแป้งฝุ่นค้ะ คุณน้อง ให้มันทำให้หน้าไม่มันไว ก็ดีแล้วนะ 5555

*นี่คือภาพ ก่อนทา (ซ้าย) คือหน้าไปทำงานทั่วไปเช้า-กลางวัน หน้าก็ชุ่มละ เกาหลีมาเลย และ
หลังทา (ขวา) ทาช่วงกลางวันก่อนลงไปทานข้าวข้างนอก กลับมาทำงาน และบ่ายๆ สัก 3-4 โมงถ่ายรูป
ก็พอโอเคนะ ถือว่าคุมมันดีประมาณนึง อันนี้ใช้จริง ใช้จัง ส่วนในรูปนี้ใครก็อย่าไปสนใจมากเลยค่ะ
ต่ายสวยกว่านางเยอะ พูดจริง*

Weakness: จุดด้อยของนาง

เรื่องแรก: ต่ายไม่ชอบกล่องกระดาษเลยค่ะ T^T
อ่านดีๆ ไม่ใช่ ไม่ใช่ชอบ ดีไซน์ นะคะ แต่ไม่ชอบคุณภาพกระดาษกล่อง
อันนี้จากใจ คือมันบางแล้วทำให้เปิดยาก เวลาจะเปิดมันจะติดขอบๆปากกล่องค่ะ
เสียอารมณ์ประมาณนึง
เรื่องที่สอง: เรื่องราคาอาจจะสูงหน่อย ประมาณ 490 – 590 บาท
ซึ่งเรื่องราคาก็พูดยาก เพราะแต่ละคนก็มีระดับราคาที่รับได้ไม่เท่ากัน แต่ถ้าเทียบในตลาด
เทียบคุณภาพ เทียบดีไซน์ ต่ายว่า คุ้มค่า ที่จะลงทุนนะคะ (ถ้ามีเพียงพอนะคะ)
แต่ถ้าใครยังไม่มีงบพอ อาจจะรอก่อนได้ เพราะมันก็ไม่ใช่ว่าจะ ใช้ตัวอื่นแทนไม่ได้เนอะ

สรุปคะแนน  —–> 9/10 พลังแสงจันทร์
ว้ายยยยยย ขอบอกเลยว่าชอบมากจากหัวใจ หักคะแนนเดียว
คือแพกเกจจิ้งกระดาษเอ๋อๆ ที่เหลือ ผ่าน ผ่าน ผ่าน
หลังจากใช้เอง ลองเอง เล่นเองมาตลอดเดือนกว่า รู้สึกเลยว่า
การใช้แป้งข้าว มันดีกว่าจริงๆ คุ้มค่า ที่จะลงทุน
มันไม่ใช่แค่เรื่องของ ความสวย คุณภาพแป้ง อย่างเดียวหรอกค่ะ
แต่ต่ายกะเจ้าหญิงมองไปถึงเรื่องของสุขภาพด้วย
ถ้าอนาคตต้องมีปัญหาระบบทางเดินหายใจเพราะ แป้ง
อันนี้ ต่ายกะเจ้าหญิงก็ไม่โอเคป่ะแว้ ^^”

Rabbit’s say:
สวยด้วย สุขภาพดีด้วย โอ๊ย ถ้ามีตังซื้อเถอะแก ดี๊ดี

Princess’s Say:
สาวๆผิวผสม ผิวแห้งก็ใช้นะคะ เรียกว่าเป็นแป้งที่หลากหลายจริงๆ

Where to Buy: สนใจก็ลองหาซื้อได้ที่

ตอนนี้มีขายตาม ร้านค้า Drug Store / Personal Store ใหญ่ๆค่ะ เช่น
Eve & Boy | Beautrium | Beauty Market | Lashes 
และแน่นอน ในเฟสบุ๊ค ค่ะ ไปตามหาซื้อกันได้นะคะ
แอบบอกไปนะคะว่า มาจากต่าย เพื่อเค้าจะลดให้ อิอิ
>.< กระต่าย ทำไมสตอว์ แบบนี้ >.<

เอาล่ะ! วันนี้หมดเวลาของต่ายกะเจ้าหญิงแล้วไปละ

Bye Now Baby
บาย นาว เบบี๋

___________________________________________

ขอบคุณข้อมูลจาก
facebook : Lady Audrey Club
IG : @LadyAudreyClub

Comments

comments